ฟังสรุปโครงการ “กระบะพี่มีคลังค้ำ” แบบเข้าใจง่ายๆ

ฟังสรุปโครงการ “กระบะพี่มีคลังค้ำ” แบบเข้าใ […]

ฟังสรุปโครงการ “กระบะพี่มีคลังค้ำ” แบบเข้าใจง่ายๆ

อาจเป็นรูปภาพของ รถยนต์ และ ข้อความพูดว่า "TRUST TRUSTED TED BUDDY อิขยุเตียงบ้าง หมุเตียงน้างคุณเตียงคู่ไทย เตียงคู่ไทย ISUZU o บสย เข้าร่วม มาตรการค้ำประกัน สินเชื้อเช่าซื้อ คซื้อ "กระบะพี่ มีคลังค้ำ" ช่วยให้คนไทยเข้าถึงสินเชื่อเช่ำซื้อ สำหรับซื้อรถกระบะใหม่ ถกร เพื่อใช้ใบเชิงพาณิชย์ ทั้งนิติบุคลและบุคคลธรรมดา GHNa と・・・ พร้อมรับเงื่อนไ งื่อนไข พร้อม รับ สุดพิเศษอีกมากมาย จากอีซูซุ ตั้งแต่ 1 เมษายน 2568 30 ธันวาคม 2568 หรือนกว่าจะครนมตานวงเงินที่คารู เงื่อนไขเป็นไปตามนสย.กำหมด สอบถารายละอืยดพิ่มิ่งมี่ก่ ที่ปรึกษาการขายอีซูซุ"

“กระบะพี่ มีคลังค้ำ” สำหรับผู้ประกอบการธุรกิจ SMEs และเกษตรกร

กลุ่มเป้าหมายหลักคือผู้ประกอบการ SMEs ทั้งในรูปแบบบุคคลธรรมดา (สัญชาติไทย) และนิติบุคคล (จดทะเบียนในไทย) ที่มีสินทรัพย์ถาวรไม่เกิน 200 ล้านบาท ประกอบธุรกิจถูกกฎหมาย และมีความต้องการใช้ “รถกระบะใหม่” เพื่อ “การพาณิชย์”

สำหรับบริบทของจังหวัดเชียงใหม่ กลุ่ม SMEs มีความหลากหลายสูง ครอบคลุมภาคธุรกิจสำคัญๆ ได้แก่:

  • ภาคเกษตรและเกษตรแปรรูป: เชียงใหม่เป็นแหล่งผลิตพืชผลทางการเกษตรที่สำคัญ ทั้งบนพื้นที่ราบและที่สูง การแปรรูปสินค้าเกษตรเพื่อเพิ่มมูลค่าเป็นธุรกิจที่ได้รับการส่งเสริม ตัวอย่างเช่น ธุรกิจชา กาแฟ การใช้รถกระบะจึงจำเป็นอย่างยิ่งในการขนส่งผลผลิต ปุ๋ย อุปกรณ์การเกษตร และการเดินทางในพื้นที่ทุรกันดาร
  • ภาคการท่องเที่ยวและบริการ: เชียงใหม่เป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวสำคัญของภาคเหนือ ธุรกิจที่เกี่ยวข้องจึงมีจำนวนมาก เช่น โรงแรม ที่พัก ร้านอาหาร บริษัทนำเที่ยว บริการขนส่งนักท่องเที่ยว ร้านขายของที่ระลึก รวมถึงบริการสุขภาพ รถกระบะถูกใช้ในการขนส่งสัมภาระ วัตถุดิบสำหรับร้านอาหาร/โรงแรม หรือแม้กระทั่งดัดแปลงเพื่อให้บริการนักท่องเที่ยวในบางพื้นที่
  • ภาคการค้าและพาณิชยกรรม: ทั้งการค้าส่ง ค้าปลีก การซื้อมา-ขายไป รวมถึงธุรกิจออนไลน์ที่เติบโตขึ้น ซึ่งต้องการรถกระบะสำหรับการขนส่งและกระจายสินค้า
  • ภาคบริการอื่นๆ: เช่น ธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง ธุรกิจโลจิสติกส์ บริการรักษาความปลอดภัย ซักอบรีด ซึ่งต้องใช้รถกระบะในการขนย้ายอุปกรณ์ เครื่องมือ และบุคลากร
  • ภาคหัตถอุตสาหกรรมและเศรษฐกิจสร้างสรรค์: เชียงใหม่มีชื่อเสียงด้านหัตถกรรม เช่น เครื่องปั้นดินเผาศิลาดล ไม้แกะสลัก สิ่งทอ ซึ่งต้องการรถในการขนส่งวัตถุดิบและสินค้าสำเร็จรูป
  • ภาคอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่ม: นอกเหนือจากการแปรรูปเกษตร ยังมีผู้ผลิตอาหารและเครื่องดื่มอื่นๆ

คุณสมบัติผู้เข้าร่วมโครงการ:

  • ประเภท: เป็นบุคคลธรรมดา (สัญชาติไทย) หรือนิติบุคคล (จดทะเบียนในประเทศไทย) ที่จัดอยู่ในกลุ่ม SMEs
  • ลักษณะธุรกิจ: ต้องประกอบกิจการโดยชอบด้วยกฎหมาย และไม่ขัดต่อศีลธรรมอันดี
  • ขนาดกิจการ: มีสินทรัพย์ถาวร (ไม่รวมที่ดิน) ไม่เกิน 200 ล้านบาท
  • สถานะสินเชื่อ: เป็นลูกหนี้จัดชั้นปกติ หรือจัดชั้นกล่าวถึงเป็นพิเศษ ตามเกณฑ์ของธนาคารแห่งประเทศไทย
  • การคัดกรอง: ต้องผ่านเกณฑ์การคัดกรองความเสี่ยงของลูกค้าตามที่ บสย. กำหนด
  • ประเภทรถ: ต้องเป็นรถกระบะ “ใหม่” ที่ใช้ใน “เชิงพาณิชย์” เท่านั้น ซึ่งรวมถึงรถกระบะ 4 ประตู และ 2 ประตู แต่ไม่รวมรถบรรทุก

สิทธิประโยชน์และเงื่อนไขสำคัญ:

  • วงเงินค้ำประกัน: ตั้งแต่ 200,000 บาท ถึงสูงสุด 1,500,000 บาทต่อราย
  • ค่าธรรมเนียมค้ำประกัน: ฟรี! ใน 3 ปีแรก โดยได้รับการสนับสนุนจากกระทรวงการคลัง หลังจากนั้น ปีที่ 4-7 คิดอัตราค่าธรรมเนียมเพียง 1.50% ต่อปี ของภาระหนี้ค้ำประกันในแต่ละปี ซึ่งเป็นจุดขายที่น่าสนใจอย่างยิ่ง
  • ระยะเวลาค้ำประกัน: สูงสุด 7 ปี (หรือ 84 งวด)

ระยะเวลาและขอบเขตโครงการ: โครงการระยะที่ 1 มีวงเงินรวม 5,000 ล้านบาท เปิดรับคำขอค้ำประกันตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2568 และสิ้นสุดการรับคำขอภายในวันที่ 30 ธันวาคม 2568