เข้าใจเทคนิคการใช้งาน Diff-Lock ง่ายๆภายใน3 นาที

วันนี้เราจะพูดถึงอาวุธ ที่มีมาให้ในรถระบบขับเคลื่อน 4 ล […]

วันนี้เราจะพูดถึงอาวุธ ที่มีมาให้ในรถระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ ที่จะพาเราผ่านอุปสรรค์ต่างๆได้ นั่นคือระบบ Diff-Lock นั่นเองครับ รวมถึงเราจะพามาชมวิธีใช้งานอย่างถูกต้องกันนะด้วยนะครับ

ก่อนอื่นเรามาทำความรู้จักกับระบบเฟืองท้ายกันก่อน โดยทั่วไปแล้ว ระบบขับเคลื่อนของรถยนต์ จะถ่ายทอดกำลังจากเครื่องยนต์ไปยังเพลาและลงไปยังล้อ โดยจะมีเฟืองท้ายแบบโอเพน หรือ โอเพนดิฟเฟอเรนเชียล เป็นตัวกระจายกำลังไปยังล้อทั้งสองข้าง ระบบนี้จะส่งกำลังไปยังล้อที่มีแรงเสียดทานน้อยก่อน แปรผันไปตามสถาณการณ์ต่างๆ ซึ่งจะช่วยให้เข้าโค้งได้อย่างราบรื่นเป็นธรรมชาติ เลี้ยวง่าย ไม่เกิดการขืนของล้อ เหมาะสำหรับวิ่งในทางเรียบหรือถนนปกติ แต่ในทางกลับกัน หากเป็นทางออฟโรด หรือทางที่มีอุปสรรค์ เฟืองท้ายแบบโอเพน จะทำให้ล้อที่ติดหล่มไม่มีกำลังปีนข้ามอุปสรรค์ เนื่องจากเฟืองท้ายจะส่งกำลังไปยังล้อที่หมุนฟรีมากกว่า จากสถาณการณ์ดังกล่าง เราจึงต้องการระบบล็อกเฟืองท้ายเข้ามาช่วยในการข้ามอุปสรรค์ต่างๆ

โดยระบบล็อกเฟืองท้ายจะมีอยู่ 2 แบบหลักๆ คือ Limited Slip และ ระบบ Diff-Lock ซึ่งมีข้อแตกต่างกันอยู่ รวมถึงการกระจายกำลังก็แตกต่างกัน โดยระบบ Limited Slip จะเป็นการกระจายกำลังเพื่อจำกัดการหมุนฟรีของล้อ หากมีล้อไดล้อหนึ่งมีรอบการหมุนที่แตกต่างจากล้ออีกข้างนึงเกินค่าที่กำหนด Limited Slip จะปรับการกระจายกำลัง แบบ 70:30 โดยจะลดกำลังของล้อที่หมุนฟรีเหลือ 70% และกระจายกำลังไปล้อที่ติดหล่ม 30% แต่ระบบ Diff-Lock จะเป็นการล็อกเฟืองท้ายเช่นกันแต่จะกระจายกำลังให้ล้อทั้งสองแบบ 50:50 ทำให้มีแรงปีนป่ายมากกว่า Limited Slip และใน All New Isuzu D-Max รุ่น 4×4 จะมาพร้อมกับระบบ Diff-Lock ไฟฟ้า สำหรับวิธีการใช้งาน เดียวเรามาดูกัน ปกติแล้วหากเราวิ่งในทางปกติ เราไม่ควรเปิด Diff-Lock ทิ้งไว้นะครับ เราจะใช้เฉพาะในยามจำเป็นเท่านั้น เช่น ในการขับในเส้นทางที่ลื่นมากๆ หรือลุยในเส้นทางต่างระดับที่ทำให้ล้อแขวน หรือลอยขึ้นล้อไดล้อหนึ่ง และต้องวิ่งด้วยความเร็วต่ำ ไม่ควรเกิน 30 กม./ชม ในสถาณการณ์ที่ล้อเกิดการหมุนฟรี เราสามารถกดปุ่ม Diff-Lock เพื่อให้ระบบทำงาน โดยจะมีสัญลักษณ์แบบนี้ขึ้นที่หน้าปัดแบบนี้ แสดงว่าระบบ Diff-Lock ทำงานเรียบร้อยแล้ว

โดยหลังจากระบบทำงาน เฟืองท้ายจะจ่ายกำลังไปที่ล้อทั้งสองข้างเท่าๆกัน ทำให้มีแรงขึ้นจากอุปสรรค์ได้ หลังจากเราผ่านอุปสรรค์ได้แล้ว ให้เรากดปิดระบบ Diff-Lock ด้วยนะครับ เพราะหากเราเปิดทิ้งไว้ อาจทำให้รถมีวงเลี้ยวกว้างกว่าปกติ หรือทำให้ล้อขีนขณะเข้าโค้ง และระบบอาจเกิดความเสียหายได้ หากวิ่งด้วยความเร็วสูง สำหรับรถบบ Diff-Lock จะมีใน Isuzu D-Max รุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อทุกรุ่น ทั้ง V-Cross และ Spark 4×4 เลยนะครับ

#รถกระบะ #กระบะเชียงใหม่ #อีซูซุ #อีซูซุดีแมคซ์ #differential #สาระดีๆ #isuzu #isuzumux #isuzumux2021 #isuzuรุ่นใหม่ล่าสุด